การติดตั้งพื้นไม้จริง

1.สำรวจความพร้อมก่อนติดตั้ง

  • การตรวจสอบงานพื้น
  • การตรวจสอบงานผนัง
  • การตรวจสอบงานประตู
  • การตรวจสอบงานเฟอร์นิเจอร์

กรณีพื้นเดิมเป็นคอนกรีต

  • พื้นที่เหมาะสมควรเป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน ให้มีความต่างระดับของพื้นไม่เกิน 3 มม.
  • ควรเป็นพื้นที่แห้งสนิทแล้ว(ถ้ามีการปรับระดับควรทิ้งไว้ให้แห้งไม่ต่ำกว่า 3 อาทิตย์) ติดตั้งชั้นล่างควรมีการทำน้ำยากันชื้นก่อนการติดตั้ง

กรณีพื้นเดิมเป็นพื้นไม้ปาร์เกต์     

  • พื้นเดิมติดแน่น ไม่มีร่องรอยการบวม หรือร่องรอยการเสียหายจากน้ำ
  • ควรเป็นพื้นที่เรียบ ไม่หลุดร่อน หรือไม่มีปลวกมอด

กรณีพื้นเดิมเป็นเซรามิค แกรนิต หินอ่อน

  • พื้นเดิมติดแน่นไม่มีร่องรอยการบวม หรือร่องรอยการเสียหาย
  • มีความเรียบ ต่างระดับได้ไม่เกิน 3 มม.
  • ไม่มีน้ำซึม หรือมีความชื้นที่พื้นผิว

กรณีพื้นเดิมเป็นกระเบื้องยาง

  • พื้นเดิมติดแน่นไม่มีร่องรอยการบวม หรือร่องรอยการเสียหาย
  • มีความเรียบต่างระดับได้ไม่เกิน 3 มม.

กรณีพื้นเดิมเป็นพื้นพรม

  • ต้องทำการรื้อพรมออก แล้วตรวจสอบพื้นล่างว่าสภาพเรียบร้อยหรือไม่ หากไม่ได้ระดับต้องทำการปรับพื้น เพื่อให้มีความต่างระดับไม่เกิน 3 มม.

การตรวจสอบผนัง

  • ผนังที่ดีควรได้ระดับตรง เรียบ และไม่มีความชื้น
  • ในกรณีบ้านใหม่ ลูกค้าต้องทำการทาสีแล้วเสร็จจึงสามารถเข้าทำงานได้ แต่ถ้าลูกค้าต้องการติดเป็น  Wallpaper ให้ตรวจสอบความเรียบร้อยผนัง แล้วติดตั้งก่อนที่ลูกค้าจะติด Wallpaper
  • กรณีบ้านที่มีการอยู่อาศัยแล้ว ให้ตรวจสอบความเรียบร้อยของผนังว่าไม่มีการผุกกร่อน หรือร่อน

การตรวจสอบงานประตู

  • ในกรณีบ้านใหม่ ต้องทำการติดตั้งประตูแล้วเสร็จ พร้อมทำสี มีความแข็งแรง ไม่ตกและควรมีความสูงของประตูจากระดับพื้น มากกว่าความหนาของพื้นไม้ประมาณ 6-8 มม.
  • ในกรณีบ้านเดิม ที่มีความสูงไม่ถึงต้องทำการถอดบานเพื่อปรับให้ได้ความสูงตามที่กำหมด

2.รูปแบบและระบบการติดตั้ง

ระบบการติดตั้งพื้นไม้จริง

  1. Floated installation  (การติดตั้งแบบลอยตัว)
  2. Nailed down installation (การติดตั้งแบบยิงตะปู)
  3. Glued down installation (การติดตั้งแบบกาวบนพื้นคอนกรีต)

การติดตั้งแบบลอยตัว

  • ขั้นที่ 1 ติดตั้ง PE โฟมฟิล์มหนา 2 มม. ให้เต็มพื้นที่ที่จะติดตั้งโดยให้ด้านข้างชนสนินกันแล้วเชื่อมต่อด้วยเทปใส

  • ขั้นที่ 2 ทำการแผ่ไม้ เพื่อจัดโทนสีในห้องให้มีความสม่ำเสมอ

  • ขั้นที่ 3 ติดตั้งให้พื้นไม้แผ่นแรกโดยหินด้านร่องลิ้นเข้าผนังและกั้นด้วยลิ่นความหนาประมาณ 10-15  มม. เพื่อให้พื้นไม้มีพื้นที่ในการขยายตัว และทำการติดตั้งแผ่นต่อไปโดยการทากาวที่ร่องและใช้ค้อนยางเคาะให้พื้นไม้ให้แนบสนิท

  • ขั้นที่ 4 ยิงตะปูบริเวณลิ้นให้ติดกับวัสดุรองพื้นทุกระยะ 10 ซม. แล้วติดตั้งพื้นไม้แผ่นถัดไปจนเต็มพื้นที่
  • ขั้นที่ 5 หลังจากติดตั้งพื้นไม้เต็มห้องแล้วทำการเก็บความเรียบร้อยด้วยบัวเชิงผนัง ตัวจบตามรูปแบบห้องให้เสร็จและเก็บด้วยซิลิโคนตามสีไม้อีกที

การติดตั้งแบบยิงตะปูบนตงไม้

  • ขั้นที่ 1 เตรียมพื้นผิวคอนกรีตให้พร้อมติดตั้งตงไม้เนื้อแข็งขนาด 1″ x 2″ โดยวางเว้นระยะห่างแต่ละแถวประมาณ 30 ซม. ตามแนวความยาวของห้อง จากนั้นยึดด้วยตะปูวางพื้นไม้บนตงโดยใช้ตะปูยึดระหว่างลิ้นกับตงไม้เนื้อแข็งเพื่อซ่อนหัวตะปูวางต่อพื้นไม้แต่ละแถวให้สนิทกัน

การติดตั้งแบบยิงตะปูบนไม้อัด

  • ขั้นที่ 1 เตรียมพื้นผิวปูนให้เรียบร้อยมีความแน่นไม่มีฝุ่น ปูพลาสติกความหนา 1 มม. เพื่อกันความชื้นแล้วนำไม้อัดหนา 10-20 มม. ยึดกับพื้นปูนด้วยตะปูติดตั้งให้เต็มพื้นที่ เว้นระยะห่างระหว่างแผ่นประมาณ 1 ซม.ใช้ตะปูยึดระหว่างลิ้นของพื้นไม้กับแผ่นไม่อัด

การติดตั้งแบบยิงตะปูบนสมาร์ทบอร์ด

  • ขั้นที่ 1 เตรียมพื้นผิวปูนให้เรียบร้อยมีความแน่นไม่มีฝุ่น ปูพลาสติกความหนา 1 มม. เพื่อกันความชื้น  นำแผ่นสมาร์ทบอร์ดความหนาประมาณ 8-12  มม. ยึดกับพื้นด้วยตะปูคอนกรีตยาว 3 ซม. และเว้นระยะห่างระหว่างแผ่นสมาร์ทบอร์ดประมาณ 1-2 ซม. ใช้ตะปูยึดระหว่างลิ้นของพื้นไม้กับสมาร์ทบอร์ด

การติดตั้งแบบทากาวบนพื้นคอนกรีต

  • ขั้นที่ 1 ทำการแผ่ไม้ เพื่อจัดโทนสีในห้องให้มีความส่ำเสมอ

  • ขั้นที่ 2 ติดตั้งโดยการทากาวลงบนพื้นซีเมนต์แล้วนำพื้นไม้ติดตั้งบนพื้นที่ทากาว (โดยใช้กาว PU SIKA T55)

  • ขั้นที่ 3 หลังจากติดตั้งพื้นไม้เต็มห้องแล้ว ทำการเก็บความเรียบร้อยด้วยบัวเชิงผนัง ตัวตามรูปแบบห้องให้เสร็จและเก็บด้วยซิลิโคนตามส๊ไม้อีกที

ข้อแนะนำหลังการติดตั้ง

  1. ไม่ควรใช้ พลาสติก ปิดทับโดยตรงเพราะความชื้นอาจทำให้ไม้เกิดความชื้นและมีปัญหาบวมได้ ควรใช้ กระดาษลูกฟูกปิดทับแทน แล้วปิดทับด้วยไม้อัดจะดีที่สุด

  1. สภาพที่โดนแดดต้องมีม่านหรือกระดาษป้องกันแดดมากระทบโดยตรง อาจทำให้ไม้พื้นขยายตัวสูงสีซืดจางสีโปว์แตกร่อนได้
  2. เมื่อติดตั้งแล้วเสร็จสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีในกรณีที่ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที ต้องมีการเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทเพื่อลดความชื้นในห้องประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นไม้ขยายตัวมากกว่าปกติ

  1. ไม้พื้นเป็นผลิตภัณฑ์จากไม้ธรรมชาติ แผ่นพื้นไม้ทุกแผ่นจึงมีความแตกต่างกันทั้งเสี้ยนไม้ ลายไม้ สี และหรือ รูปลักษณ์ซึ่งถือว่าเป็นความปกติ มิใช่ตำหนิที่มีผลต่อความรับผิดชอบในการรับประกันสินค้า รวมทั้งการเปลี่ยนสีไปตามกาลเวลาตามธรรมชาติของไม้เช่นกัน
  2. ธรรมชาติของไม้จริงจะมีการหดและขยายตัวตลอดเวลา จึงต้องระมัดระวังเรื่องของความชื้นและการสัมผัสน้ำโดยตรง

การดูแลรักษาพื้นไม้จริง

  • ทำความด้วยเครื่องดูดฝุ่น ไม้กวาด หรือเช็ดทำความสะอาดหรือน้ำยาถูพื้นชนิดอ่อนบิดหมาดๆ เกือบแห้ง เช็ดทำความสะอาดไม้พื้นจริง
  • ใช้ผ้าเช็ดเท้า ที่เป็นผ้าหรือสักหลาด วางไว้ที่ทางเท้าแทนวัสดุที่มีคม เช่น แผ่นลวด
  • ใช้วัสดุรองขาโต๊ะ เฟอร์นิเจอร์และใช้ลูกล้อแบบนิ่ม เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
  • หลีกเหลี่ยงการใส่รองเท้าสันตะปู หรือรองเท้ากอล์ฟเดินบนพื้น
  • ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดพื้นออย่างสม่ำเสมอหลีกเลี่ยงการให้ฝนสาด น้ำนองพื้น แอร์รั่ว

  • พื้นไม้เหมาะสำหรับพื้นที่แห้งและปราศจากความชื้น (ไม่ควรติดตั้งพื้นชั้นล่างของบ้าน) หลีกเลี่ยงพื้น
  • เปียกชื้นมีน้ำขังโดนแดดโดยตรง ความร้อนอันเกิดจากเปลวไฟ สารเคมีและสารปนเปื้อนต่างๆ
  • หลังจากการติดตั้งเสร็จสามารถเข้าอยู่ได้ทันที ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ต้องทำการเปิดประตูหรือหน้าต่างเพื่อให้ถ่ายเทอากาศและความชื้นในห้อง เพื่อให้พื้นไม่มีเวลาในการปรับสภาพและลดความเสียหายอันเกิดจากความชื้นในอากาศ