หลายๆท่านที่สนใจติดตั้งพื้นทดแทนไม้จริง หรือไวนิลลายไม้ อาจสงสัยว่าทำไมมีชื่อเรียกหลากหลาย บ้างก็เรียกว่า พื้น LVT บางคนก็เรียกว่าพื้น SPC และก็มี WPC อีกต่างหาก พื้นแต่ละชนิดแตกต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร และติดตั้งแบบไหน เหมือนกันหรือไม่ SKSDECOR จะมาให้คำตอบเองค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า พื้นทั้งสามชนิด (LVT, SPC, WPC ) มีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากทั้งในแง่กระบวนการผลิต และวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตและการประกอบขึ้นเป็นแผ่น อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างหลักก็คือการผสมวัตถุดิบหลัก ได้แก่ Polyvinyl Chloride เข้ากับวัถตุดิบอื่นๆ (หรือไม่ผสมเลยใน LVT) เพื่อเพิ่มเติมคุณสมบัติบางประการให้สูงมากขึ้น เช่นพื้น WPC (Wood Plastic Composite) ซึ่งเป็นการผสมผงจากไม้เพิ่มเติมเข้ามาในการผลิตชั้นวัสดุหลักเพื่อสร้างความนุ่ม แต่แกร่งขึ้นมากกว่า LVT การยืดหดตัวน้อยกว่าพื้นไวนิลทั่วไป (LVT) แต่ก็ยังมีการยืดหดตัวสูงมากกว่าพื้นชนิด SPC (Stone Plastic Composite) ซึ่งผสมผงบดละเอียดจากหินเข้ากับพลาสติก จึงมีความหนาแน่นและหดตัวต่ำมาก แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยความแข็ง และมีแรงสะท้อนกลับขณะเดินมากกว่าพื้นชนิด WPC ซึ่งให้ความหยุ่นนุ่มเท้ามากกว่าในขณะก้าวเดิน
เห็นได้ว่าพื้นทั้งสามชนิดดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกันมากในแง่การหยิบจับ แทบจะไม่สามารถแยกได้ด้วยสายตา การใช้งานจริงก็มีความแตกต่างกันบ้างหากได้ทดลองเดินบนพื้นแต่ละชนิด การติดตั้งมีความคล้ายคลึงกันมากแทบจะไม่แตกต่างกันนัก แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญและให้ความสำคัญกับการติดตั้ง จะมีขั้นตอนในการตรวจสอบพื้นและการแนะนำให้ใช้พื้นแต่ละชนิดที่ต่างกันตามพื้นที่หน้างานของแต่ละท่าน ที่สำคัญที่สุดก็คือ ราคาที่แตกต่างกันมากพอสมควร ผู้ซื้อจึงควรศึกษาและเข้าใจความแตกต่างของพื้นไวนิลทั้งสามชนิดให้ดี เพื่อให้ได้ของที่ดี คุ้มค่า และตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างแท้จริง
ขั้นตอนการเตรียมพื้น
พื้นซีเมนต์ ในกรณีเป็นพื้นคอนกรีตให้ใช้คอนกรีตแชะงัดเศษปูนที่อาจติดอยู่กับพื้นแล้วใช้หินขัดๆ ให้เรียบทั่วพื้นและตามซอกมุมแล้วใช้ไม้กวาดทำความสะอาด (ถ้าพื้นสูงต่ำไม่ได้ระดับเป็นหลุมบ่อหรือรอยต่อจะต้องปรับปรุงและตกแต่งด้วยซีเมนต์ให้เรียบได้ระดับ และขัดมันเสียก่อน)
หมายเหตุ : พื้นก่อนติดตั้งจำเป็นต้องแห้งสนิทเพราะฉะนั้นจึงห้ามล้างพื้นด้วยน้ำ ก่อนติดตั้งโดยเด็ดขาด
พื้นกระเบื้องดินเผาหรือพื้นกระเบื้องเซรามิก ในกรณีพื้นกระเบื้องดินเผาหรือกระเบื้องเซรามิก หามีร่องยาแนวหรือมีการเซาะร่องไว้ ต้องทำการปิดร่องเหล่านั้นด้วยการฉาบซีเมนต์ ผสมยิปซั่ม (ควรให้ช่างผู้ชำนาญเป็นผู้ปฏิบัติจะได้คุณภาพที่ดีที่สุด ให้ทั่วบริเวณพื้นที่มีการปลูกด้วยกระเบื้องเหล่านั้นเสียก่อนที่จะติดตั้งพื้นไวนิล
พื้นไม้แท้ ในกรณีเป็นพื้นไม้แท้ให้ขัด และตกแต่งพื้นหน้าให้เรียบและปราศจากร่องของรอยต่อ (ถ้าเป็นพื้นไม้เก่าและไม่แข็งแรงให้ซ่อมและติดตะปูยึดให้แน่นก่อน) ส่วนร่องรอยต่อระหว่างแผ่น สามารถใช้กาว อีพ็อกซี ทำการอุดรูรอยต่อ รอให้กาวแห้ง ทำการขัดผิวให้เรียบรอให้กาวแห้งทำการขัดผิวให้เรียบเสมอกับพื้นเดิม
พื้นลามิเนต หรือพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ในกรณีเป็นพื้นลามิเนตหรือเอ็นจิเนียร์ ควรทำการรื้อการถอนพื้นเดิมเสียก่อน เพราะพื้นทั้ง 2 แบบนี้จะมีปัญหากับน้ำหรือความชื้นและปลวกโดยตรงเช่น บวมน้ำ โก่งงอ ปลวกกินใน แต่หาพื้นที่มีเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งบนพื้น ให้ทำการซ่อมแซมพื้นที่เกิดปัญหาเสียก่อนและต้องปรับด้วนการฉาบพื้นที่ด้วยซีเมนต์ผสมยิซั่มจนทั่วบริเวณประมาณ 2 รอบหรือความหนาที่ 2 มม.เพื่อป้องกันความชื้นหรือน้ำซึมลงไปทำอันตรายแก่พื้นเดิม
วิธีลงกาว
- คนกาวในถังให้เข้ากันเสียก่อน แล้วค่อยเทกาวลงบนพื้น ครั้งละประมาณ 1-2 กิโลกรัม
- ใช้เกรียงที่เซาะร่องฟันปลาไว้แล้ว ปาดกาวให้สม่ำเสมอ (กาวขาวไม่ควรปาดกาวครั้งหนึ่งเกินเนื้อที่ 20-30 ตร.ม.ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที) กาวจะแห้งช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแลพื้นที่ที่จะติดตั้ง
- พอกาวแห้งหมาดๆ ใช้นิ้วแตะๆ ดู ถ้ากาวไม่ติดนิ้วให้ใช้เชือกตีเสนคลุกฝุ่นสีตีแนว ตรงจุดที่ทำเครื่องหมายไว้แล้วตอนจัดแนวโดยดีดเส้นเชือกให้ทิ้งรอยสีเป็นแนวทาง เส้นนี้ให้ถือเป็นหลักในการติดตั้ง
- การติดตั้งให้ติดตามแนวเส้นเป็นอันดับแรก โดยติดตั้งไปข้างหน้าเรื่อยๆ และให้วางแผ่นกระเบื้องยางไว้สำหรับเดินเข้าไปติดตั้งด้วย ซึ่งกระเบื้องที่วางไว้นั้นสามารถดึงออกมาใช้งานได้อีกภายหลัง
การติดตั้งพื้นไวนิลแบบกาว
โดยปกติแผ่นไวนิลจะมีการยืดและหดตัว ซึ่งจะหดทางด้านตามมากกว่าทางด้านขวาง (ด้านขวางจะสังเกตได้จากเส้นลายบนกระเบื้องยาง) ฉะนั้นการติดตั้งที่ถูกต้องจะต้องติดตั้งให้ชิดสนิทกันแผ่นต่อแผ่นให้มากที่สุด และจะต้องติดสนิทกับพื้นถ้าแผ่นไวนิลแผ่นที่ติดกำแพงไม่พอดีกับขนาดของแผ่นไวนิลก็ต้องตัดด้วยมีดคัตเตอร์ทีละแผ่น
เมื่อติดตั้งแผ่นไวนิลเสร็จเรียบร้อยให้ใช้ลูกกลิ้งน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม กลิ้งทับทันทีเพื่อให้กระเบื้องยางทุกแผ่นแนบสนิทกับพื้น
ในระหว่างการติดตั้ง ควรมีอากาศที่ถ่ายเทดีมีลมพัดอย่างทั่วถึง และไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิต่ำกว่า 26 องศา เพราะอาจส่งผลให้พื้นไวนิลเกิดการหดตัวเพราะความเย็น และไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศหลังติดตั้งเสร็จก่อน 6-12 ชม. เป็นอย่างน้อย
การติดตั้งพื้นไวนิลแบบคลิ๊กล็อค
- วางแถวแรก เริ่มวางในแถวแรกปูแผ่นที่ 2 โดยต่อด้านที่มีปลายแหลมเข้ากับด้านที่มีร่องของแผ่นแรกโดยทำมุม 12-60 องศาจากนั้นประกบเข้าด้วยกัน และติดแผ่นต่อไปเรื่อยๆ วางแผ่นสุดท้ายโดยหมุม 180 องศาให้แผ่นไวนิลตั้งขึ้น วัดขนาดและทำเตรื่องหมายจากนั้นให้ไม้บรรทัดสามเหลี่ยมวัดและคัตเตอร์กรีดขนาดแผ่นไวนิลและหักออก ดำเนินการติดตั้งต่อ
- วางแถวที่ 2 เหมือนแถวแรก การประกบเข้ากับแถวแรกให้เอียงแผ่นไวนิลและประกอบปลายแหลมเข้ากับร่องของแถวแรกโดยทำมุม 15-20 องศา จากนั้นกดให้ต่ำลงและกบให้เข้ากัน
แบบการวางแนวติดตั้งพื้นไวนิล
สำหรับห้องขนาดเล็ก เพื่อความสะดวกในการวางของและติดตั้งควรจะเริ่มต้นจากประตูเข้าไป (สำหรับห้องโถงใหญ่อาจใช้แนวกลางห้องเป็นหลัก) ในกรณีเริ่มติดตั้งจากประตูเข้าไปให้เถือด้านยาวของกำแพงห้องเป็นหลักวางเส้นแนวให้ขนานนี้ห่างจากกำแพงเป็นระยะ ซึ่งคำนวณดูแล้วว่า เมื่อติดตั้งพื้นเต็มห้องแล้วแผ่นที่ติดกำแพงจะต้องถูกตัดออกนั้นจะมีขนาดเฉลี่ยเท่ากันหมดและไม่เล็กจนเกินไป เมื่อใช้เชือกตีเส้นตรงที่ทำเครื่องหมายกากบาทไว้ทั้งหัวท้ายที่ได้ทำไว้แล้วในตอนจับแนว โดยดีดเส้นเชือกให้ทิ้งรอยเป็นสีเป็นแนวไว้
การใช้พื้นหลังการติดตั้ง
พื้นที่ที่ติดตั้งกระเบื้องยางเสร็จใหม่ๆ ไม่ควรใช้น้ำล้างทำความสะอาดทันที ต้องปล่อยให้กาวแห้งสนิท 2-3 วัน และไม่ควรโยกย้ายของที่มีน้ำหนักมากภายใน 1 สัปดาห์ควรเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทสะดวกและไม่ควรให้อากาศถายในห้องร้อนจนเกินไป
การรักษาความสะอาด
การรักษาความสะอาดประจำวันให้ใช้ผ้าชุปน้ำสะอาดหรือน้ำสบู่บิดให้หมาดๆ เช็ดถูธรรมดาและควรใช้น้ำยาเคลือบเงาลงทุกเดือนจะช่วยรักษาพื้นให้คงทน เงางาม และทำความสะอาดง่าย ถ้าเป็นพื้นเก่าทีมีสภาพสกปรกมากควรล้างด้วยน้ำยาล้างพื้นก่อนแล้วจึงใช้ “น้ำยาเคลือบเงา” ลงซ้ำอีก 1-2 ครั้ง